สถานะไทย
ไทยเป็นผู้ส่งออกสินค้าเฟอร์นิเจอร์เข้าสู่ตลาดโลกมากกว่าการนำเข้า โดยปี 2005 ไทยเป็นผู้ส่งออกอันดับที่ 8 ของโลก รองจากจีน สหภาพยุโรป แคนาดา สหรัฐฯ เม็กซิโก มาเลเซีย และอินโดนีเซีย
ด้านส่งออก ปี 2005 การส่งออกมีมูลค่า 1,288.80 ล้านเหรียญสหรัฐ และใน 6 เดือนแรกของปี 2006 มีมูลค่า 592.85 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัวลดลงร้อยละ 1.25 เมื่อเทียบกับระยะเวลาเดียวกันของปีก่อน
ด้านนำเข้า ปี 2005 การนำเข้ามีมูลค่า 153.86 ล้านเหรียญสหรัฐ และ 6 เดือนแรกปี 2006 มีมูลค่า 94.02 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 40 เมื่อเทียบกับระยะเวลาเดียวกันของปีก่อน
ตลาดส่งออกหลักของไทย ได้แก่ สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น และสหภาพยุโรป ซึ่ง 3 ตลาดนี้รวมกันมีสัดส่วนกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าการส่งออกเฟอร์นิเจอร์ทั้งหมดของไทย
คู่แข่งขัน ประเทศที่เป็นคู่แข่งขันสำคัญของไทยในตลาดสหรัฐฯและญี่ปุ่น คือ จีน แคนาดา เม็กซิโก สหภาพยุโรป ไต้หวัน มาเลเซีย เวียดนาม และอินโดนีเซีย
กลุ่มสินค้าที่ส่งออก กลุ่มสินค้าเฟอร์นิเจอร์ไม้ มีสัดส่วนมากที่สุดร้อยละ 53.44 ของมูลค่าส่งออกทั้งหมดของไทย รองลงมา ได้แก่ กลุ่มเฟอร์นิเจอร์อื่นๆ ร้อยละ 23.10 และชิ้นส่วนเฟอร์นิเจอร์ ร้อยละ 13.05
กลุ่มสินค้าที่นำเข้า คือ กลุ่มชิ้นส่วนเฟอร์นิเจอร์ มีสัดส่วนมากที่สุดร้อยละ 56.15 ของมูลค่านำเข้าทั้งหมดของไทย รองลงมาได้แก่ กลุ่มเฟอร์นิเจอร์อื่นๆ ร้อยละ 15.59
การเปิดตลาดภายใต้กรอบเจรจา FTA
การเปิดตลาดสินค้าภายใต้กรอบเจรจา FTA ระหว่างไทยกับประเทศคู่เจรจา มีผลบังคับใช้แล้ว 4 ประเทศ คือ ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ จีน และอินเดียบางส่วน สำหรับญี่ปุ่นได้ข้อสรุปในการเจรจาแล้ว แต่ยังไม่ได้ลงนามในความตกลงฯ
ไทยนำสินค้าเฟอร์นิเจอร์เข้าเจรจาทุกกรอบ FTA ยกเว้นกรอบ FTAไทย-อินเดีย ที่การเจรจาเปิดตลาดในกรอบเร่งลดภาษี (early harvest) 82 รายการ มีสินค้าเฟอร์นิเจอร์รวมอยู่ด้วยเพียง 1 รายการเท่านั้น คือ ส่วนประกอบและชิ้นส่วนเฟอร์นิเจอร์ (พิกัด 940190) ซึ่งทั้งไทยและอินเดีย ตกลงลดภาษีเป็น 0% ในวันที่ 1 กันยายน 2006 ส่วนกรอบอื่นๆ สรุปการลดภาษีได้ดังนี้
1. เฟอร์นิเจอร์ไม้ (พิกัด 940169, 940330, 940340, 940340, 940350, 940360)
ไทยทยอยลดภาษีให้คู่เจรจา ดังนี้
คู่เจรจาลดภาษีให้ไทย ดังนี้
2. เฟอร์นิเจอร์โลหะ (พิกัด 940171, 940179, 940310, 940320)
ไทยทยอยลดภาษีให้คู่เจรจา ดังนี้
คู่เจรจาลดภาษีให้ไทย ดังนี้
3. ที่นอนหมอนฟูก (พิกัด 940410, 940421, 940429, 940430, 940490)
ไทยทยอยลดภาษีให้คู่เจรจา ดังนี้
คู่เจรจาลดภาษีให้ไทย ดังนี้
4. เฟอร์นิเจอร์อื่นๆ (พิกัด 940110, 940120, 940130, 940140, 940150, 940161, 940180, 940370, 940380)
ไทยทยอยลดภาษีให้คู่เจรจา ดังนี้
คู่เจรจาลดภาษีให้ไทย ดังนี้
5. ชิ้นส่วนเฟอร์นิเจอร์ (พิกัด 940190, 940390)
ไทยทยอยลดภาษีให้คู่เจรจา ดังนี้
เจรจาลดภาษีให้ไทย ดังนี้
ข้อวิเคราะห์
การเปิดตลาดสินค้าเฟอร์นิเจอร์ภายใต้กรอบ FTA นั้น โดยภาพรวมแล้วเป็นประโยชน์กับทั้งสองฝ่าย เนื่องจากอัตราภาษีภายใต้ FTA จะต่ำกว่าอัตราภาษีที่จะเก็บทั่วไป(MFN) ทำให้ผู้ประกอบการทั้งสองฝ่ายสามารถลดภาระด้านภาษีลงได้จำนวนหนึ่ง ซึ่งจะส่งผลให้ขีดความสามารถในการแข่งขันเพิ่มมากขึ้นเมื่อเทียบกับประเทศคู่แข่งขันอื่นๆ ยกเว้น จีนที่มีการลดภาษี MFN ปี 2005 ลงมาต่ำกว่าภาษีภายใต้ FTA โดยเป็น 0% เกือบทุกรายการ ทั้งนี้ไม่รวมสินค้ากลุ่มที่นอนหมอนฟูก(พิกัด9404) ทำให้ทุกประเทศที่ส่งสินค้าไปจีนมีโอกาสเท่ากัน แต่ก็ไม่มีผลกระทบต่อไทยมากนัก เนื่องจากจีนไม่ใช่ตลาดหลักด้านสินค้าเฟอร์นิเจอร์ของไทย ในปี 2005 ไทยส่งเฟอร์นิเจอร์ไปจีน มูลค่าเพียง 3.3 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัวเพิ่ม 83.33% จากปีก่อน โดยเป็นตลาดส่งออกอันดับที่ 30 ของไทย
สำหรับการเปิดตลาดสินค้ากับประเทศคู่เจรจาอื่นๆ ยังเป็นประโยชน์กับผู้ประกอบการไทย เนื่องจากอัตราภาษีภายใต้ FTA ได้ทยอยลดลงเป็นลำดับและมีอัตราภาษีต่ำกว่าภาษีภายใต้ MFN ด้วย แต่อย่างไรก็ตามในระยะต่อไปการแข่งขันจะมีมากขึ้นทั้งในและนอกตลาด FTA ดังนั้น ผู้ผลิตและผู้ประกอบการไทยในอุตสาหกรรมกลุ่มนี้ต้องเร่งปรับตัวเพื่อรองรับการแข่งขันกับประเทศต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นด้านการลดต้นทุน การเพิ่มนวัตกรรมใหม่ ผลิตสินค้าที่มีความแตกต่าง/หลากหลาย สินค้ามีคุณภาพ/มาตรฐาน ไม่มีสารตกค้างในตัวสินค้า ผู้ผลิตและผู้ประกอบการมีระยะเวลาสำหรับการปรับตัว ซึ่งยืดหยุ่นอยู่ในช่วง 3-4 ปี จนกว่าภาษีจะลดเป็น 0% เกือบทุกรายการในปี 2010
สรุปการเปิดตลาดสินค้าเฟอร์นิเจอร์ ภายใต้กรอบ FTA
------------------------------------------------------------
สถานะไทย : ไทยเป็นผู้ส่งออกสุทธิ อยู่อันดับที่ 8 ของโลกในปี 2005 โดยมีมูลค่าส่งออก 1,288.80 ล้านเหรียญสหรัฐ นำเข้า 153.86 ล้านเหรียญสหรัฐ ตลาดส่งออกหลัก คือ สหรัฐอเมริกา และญี่ปุ่น คู่แข่งขันของไทยในตลาดสหรัฐฯและญี่ปุ่น คือ จีน แคนาดา เวียดนาม และไต้หวัน กลุ่มสินค้าที่ส่งออก อยู่ในกลุ่มเฟอร์นิเจอร์ไม้ รองลงมาคือกลุ่มเฟอร์นิเจอร์อื่นๆ และชิ้นส่วนเฟอร์นิเจอร์
การเปิดตลาดภายใต้กรอบเจรจา FTA
1. ไทยเจรจาลดภาษีสินค้าเฟอร์นิเจอร์กับประเทศคู่เจรจา 5 ประเทศ โดย 4 ประเทศ มีผลใช้บังคับแล้ว คือ ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ จีน อินเดีย สำหรับญี่ปุ่นได้ข้อสรุปในการเจรจาแล้ว แต่ยังไม่ได้มีการลงนามในความตกลงฯ สำหรับการเจรจาเปิดตลาดไทย-อินเดียอยู่ในกรอบเร่งลดภาษี(early harvest) 82 รายการ ซึ่งมีสินค้าเฟอร์นิเจอร์รวมอยู่ด้วยเพียง 1 รายการเท่านั้น คือ ส่วนประกอบเฟอร์นิเจอร์(พิกัด 940190) ซึ่งทั้งไทยและอินเดียตกลงลดเป็น 0% ในวันที่ 1 กันยายน 2006
2. สินค้าเฟอร์นิเจอร์และชิ้นส่วนที่มีการเปิดตลาด ประกอบไปด้วยกลุ่มเฟอร์นิเจอร์ไม้ เฟอร์นิเจอร์โลหะ เฟอร์นิเจอร์อื่นๆ กลุ่มที่นอนหมอนฟูก และชิ้นส่วนเฟอร์นิเจอร์
3. การลดภาษี
- ไทย ส่วนใหญ่ไทยทยอยลดภาษีให้คู่เจรจาเป็น 0%ในปี 2010
- คู่เจรจา ส่วนใหญ่ทยอยลดภาษีให้ไทยเป็น 0% ปี 2010 ยกเว้น บางรายการที่ภาษีเป็น 0% ในปี 2015 ได้แก่ ถุงนอน(พิกัด 940430) ของนิวซีแลนด์ และจีนสงวนสินค้าประเภทที่นั่งชนิดใช้ในยานยนต์ (พิกัด 940120) และชิ้นส่วนของที่นั่งในยานยนต์(พิกัด 94019011) อยู่ในรายการสินค้าอ่อนไหว ซึ่งภาษีจะเป็น 0% ปี 2018